ลดต้นทุน แรงงานด้วย RPA เพิ่มกำไรไม่ลดคุณภาพ

ลดต้นทุน

การ ลดต้นทุน การผลิตเป็นสิ่งที่ธุรกิจทุกประเภทให้ความสำคัญ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ การนำเทคโนโลยี RPA (Robotic Process Automation) มาใช้
RPA คือ เทคโนโลยีที่จำลองการทำงานซ้ำๆ ของมนุษย์ด้วยซอฟต์แวร์ เสมือนมีหุ่นยนต์มาทำงานแทน ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และปลดล็อกศักยภาพของพนักงานให้ทำงานที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น

ทำไมต้องลดต้นทุนแรงงาน

การลดต้นทุนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในต้นทุนที่สำคัญที่สุดคือ ต้นทุนแรงงาน การลดต้นทุนแรงงานจึงเป็นกลยุทธ์ที่หลายธุรกิจใช้อย่างแพร่หลาย แต่ทว่า การลดต้นทุนแรงงานนั้น ไม่ใช่แค่การไล่พนักงานออก หรือลดค่าจ้างเสมอไป ยังมีวิธีการอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถลดต้นทุนแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของพนักงาน

วิธีการลดต้นทุนแรงงานมีหลากหลายวิธี

การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยการฝึกอบรมพนักงาน พัฒนาระบบการทำงาน และใช้เทคโนโลยีมาช่วย
การปรับโครงสร้างค่าจ้าง ธุรกิจสามารถปรับโครงสร้างค่าจ้างให้เหมาะสมกับทักษะ ประสบการณ์ และผลงานของพนักงาน
การจ้างพนักงานสัญญาจ้าง ธุรกิจสามารถจ้างพนักงานสัญญาจ้างแทนพนักงานประจำ เพื่อลดภาระด้านค่าใช้จ่าย
การลดจำนวนพนักงาน ในบางกรณีธุรกิจอาจจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลง แต่ควรทำด้วยความระมัดระวัง และดูแลพนักงานที่ถูกเลิกจ้างอย่างเหมาะสม
การใช้ระบบอัตโนมัติ ธุรกิจสามารถใช้ระบบอัตโนมัติมาแทนที่งานบางประเภท เพื่อลดต้นทุนแรงงาน

ข้อดีของการใช้ RPA ในการ ลดต้นทุน แรงงาน

ลดต้นทุน แรงงานโดยตรง RPA ช่วยลดความจำเป็นในการจ้างพนักงานมาทำงานซ้ำๆ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือน สวัสดิการ และค่าฝึกอบรม
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน RPA ทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และไม่มีข้อผิดพลาด ช่วยลดระยะเวลาในการทำงาน เพิ่มผลผลิต และลดความเสี่ยงจากการทำงานผิดพลาดของพนักงาน
ปลดล็อกศักยภาพของพนักงาน เมื่อพนักงานไม่ต้องทำงานซ้ำๆ พวกเขาสามารถทุ่มเทเวลาให้กับงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ เชิงกลยุทธ์ และงานที่ต้องการทักษะเฉพาะทางมากขึ้น
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ธุรกิจที่ใช้ RPA สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณภาพในราคาที่แข่งขันได้

ตัวอย่างการใช้งาน RPA ในการ ลดต้นทุน แรงงาน

งานด้านเอกสาร RPA สามารถใช้ประมวลผลเอกสารต่างๆ เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน รายงาน ฯลฯ โดยอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาและต้นทุนในการทำงาน
งานบริการลูกค้า RPA สามารถตอบคำถามที่พบบ่อย ให้ข้อมูลสินค้าและบริการ และจัดการคำร้องเรียนของลูกค้า ช่วยลดภาระงานของพนักงานบริการลูกค้า
งานด้านการเงิน RPA สามารถทำการโอนเงิน ตรวจสอบยอดบัญชี และจัดทำรายงานทางการเงิน ช่วยลดความเสี่ยงจากการทำงานผิดพลาดของมนุษย์
งานด้านทรัพยากรบุคคล RPA สามารถจัดการข้อมูลพนักงาน เตรียมเอกสารสำหรับการจ้างงาน และคำนวณเงินเดือน ช่วยลดเวลาและต้นทุนในการทำงาน

การใช้ RPA ไม่ได้ลดคุณภาพงาน แต่กลับช่วยยกระดับคุณภาพงานให้ดีขึ้น

งานมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น RPA ทำงานโดยปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจากการทำงานของมนุษย์
งานเสร็จเร็วขึ้น RPA ทำงานได้รวดเร็วกว่ามนุษย์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
งานมีมาตรฐาน RPA ทำงานตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ช่วยให้มั่นใจว่างานทุกชิ้นมีคุณภาพดีและสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม การใช้ RPA นั้นก็มีข้อจำกัด

ค่าใช้จ่ายในการลงทุน การนำเทคโนโลยี RPA มาใช้มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ค่อนข้างสูง
การพัฒนาซอฟต์แวร์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ RPA จำเป็นต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง
การเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงาน การใช้ RPA อาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานภายในองค์กร

ดังนั้น ธุรกิจที่ต้องการใช้ RPA ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด พิจารณาความเหมาะสม และวางแผนการใช้งานอย่างรอบคอบ

RPA เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการช่วยธุรกิจลดต้นทุนแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และปลดล็อกศักยภาพของพนักงาน ธุรกิจที่สามารถนำเทคโนโลยี RPA มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถ

หากท่านใดสนใจนำระบบ RPA ไปช่วยในลดต้นทุนแรงงานในองค์กรของท่านไปกับ SO NEXT

ให้ SO NEXT ช่วยลดขั้นตอนในการทำงานของคุณให้กระซับขึ้น และ ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น เพื่อให้คุณประหยัดเวลาและพัฒนาธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

ให้ SO NEXT ช่วย TRANFORMATION  เปลี่ยนเอกสารจาก กระดาษ เปลี่ยนเป็น Digital Files เพื่อง่ายต่อการใช้งาน ค้นหา จัดเก็บ รวมถึงมีความปลอดภัยของข้อมูลและจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลในองค์กรของคุณ

นอกจากนี้ RPA ยังสามารถทำงานต่างๆได้อย่างเช่น

การจองและการจัดการยานพาหนะ: ช่วนในการจองรถ การตรวจสอบความพร้อมของรถ, และการออกใบแจ้งหนี้

การจัดการภูมิทัศน์และการดูแลรักษา: ช่วยในการวางแผนงานและการจัดสรรทรัพยากร, การติดตามความคืบหน้าของโครงการ, และการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลรักษาพื้นที่สีเขียว

การสรรหาและการจ้างงาน: ช่วยในการคัดกรองและการสมัครงาน เช่น การกรอกแบบฟอร์มสมัครงาน, การจัดการการสัมภาษณ์, และการตรวจสอบประวัติ