ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ทางเลือกใหม่ในยุคดิจิทัล มีกี่ประเภทให้เลือกใช้ ?

Signature

ในยุคดิจิทัลที่ธุรกรรมและการลงนามเอกสารต่าง ๆ ได้เปลี่ยนผ่านไปสู่โลกออนไลน์ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการทำงานทางธุรกิจ บทความนี้จะอธิบายถึง ประเภทของลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ที่แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก พร้อมกับ มาตราและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คุณเข้าใจการใช้งานตามกฎหมายได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมถึงเหตุผลว่าทำไมถึงต้องใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ

1. ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ทั่วไป(Simple Electronic Signature)

ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป เป็นการลงนามที่ง่ายที่สุดและไม่ซับซ้อน มักใช้ในธุรกรรมที่ไม่ต้องการการยืนยันตัวตนที่เข้มงวด เช่น การวาดลายเซ็น การพิมพ์ชื่อ หรือการใช้ภาพลายเซ็นที่แนบลงไปในเอกสารดิจิทัล

ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ระบุใน มาตรา 9 ว่า การทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์มีผลสมบูรณ์ทางกฎหมายเทียบเท่ากับธุรกรรมที่ทำเป็นเอกสารกระดาษ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ประเภทนี้สามารถใช้ในการทำธุรกรรมได้ แต่ความน่าเชื่อถืออาจต่ำกว่าประเภทอื่นเนื่องจากไม่มีการยืนยันตัวตนที่ซับซ้อน

ตัวอย่างการใช้งาน:

  • การลงนามในเอกสารภายในบริษัท
  • การกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ที่ไม่ต้องการการตรวจสอบตัวตน

2. ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้(Advanced Electronic Signature)

ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ เป็นลายเซ็นที่มีการยืนยันตัวตนของผู้ลงนามอย่างชัดเจนและมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่สูงขึ้น โดยมีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าลายเซ็นยังคงสมบูรณ์และไม่ถูกแก้ไข

มาตรา 26 ของ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ระบุว่าลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ต้องสามารถยืนยันตัวตนของผู้ลงนามได้อย่างชัดเจนและป้องกันการปลอมแปลงหรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหลังการลงนาม

นอกจากนี้ มาตรา 27 ยังระบุว่า ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีการยืนยันตัวตนที่เพียงพอตามลักษณะและความเสี่ยงของธุรกรรม การยืนยันตัวตนมักทำผ่านการส่งรหัส OTP (One-Time Password) หรือการล็อกอินเข้าระบบด้วยรหัสผ่าน

มาตรา 28 ยังเปิดโอกาสให้คู่สัญญาสามารถตกลงกันในเรื่องวิธีการยืนยันตัวตนที่เหมาะสมกับธุรกรรม ทำให้สามารถใช้วิธีการที่ตอบโจทย์ความปลอดภัยและความสะดวกของทั้งสองฝ่ายได้

ตัวอย่างการใช้งาน:

  • การลงนามในเอกสารธุรกิจที่ ต้องการความปลอดภัย
  • การทำธุรกรรมทางการเงินที่ต้องการการยืนยันตัวตนที่ชัดเจน
Advanced Electronic Signature

3. ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ใบรับรอง(Qualified Electronic Signature)

ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ใบรับรอง ถือเป็นลายเซ็นที่มีความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือสูงสุด เนื่องจากมีการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์จากผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรอง (Certification Authority หรือ CA) การลงนามประเภทนี้จะใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูง โดยใช้คู่คีย์ (Public Key และ Private Key) เพื่อยืนยันความถูกต้องของผู้ลงนาม

ตาม มาตรา 31 ของ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ลายเซ็นประเภทนี้ต้องใช้ใบรับรองจากหน่วยงานที่ได้รับการรับรอง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการยืนยันตัวตน ทำให้ลายเซ็นนี้มีผลทางกฎหมายเทียบเท่ากับลายเซ็นในเอกสารที่เป็นกระดาษ

ตัวอย่างการใช้งาน:

  • การลงนามในสัญญาทางกฎหมาย หรือสัญญาระหว่างประเทศ
  • การทำธุรกรรมทางการเงินที่มีมูลค่าสูง หรือเกี่ยวข้องกับราชการ
Qualified Electronic Signature

แล้วทำไมต้องมี ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์?

  1. เพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว: ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้การลงนามและจัดการเอกสารต่าง ๆ สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ลดขั้นตอนที่ต้องใช้เอกสารกระดาษ
  2. ประหยัดเวลาและทรัพยากร: ไม่ต้องใช้กระดาษหรือส่งเอกสารผ่านทางไปรษณีย์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายและการจัดการทรัพยากรในองค์กร
  3. ความปลอดภัยที่สูงขึ้น: ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ประเภทที่ใช้ใบรับรองมีการเข้ารหัสข้อมูล ช่วยป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร และรับประกันความถูกต้องของผู้ลงนาม
แล้วทำไมต้องมี ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์

ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ มีผลทางกฎหมายหรือไม่?

ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายเช่นเดียวกับลายเซ็นในเอกสารกระดาษ โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรา 9, มาตรา 26, มาตรา 27, มาตรา 28 และ มาตรา 31 ซึ่งกำหนดให้การใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จะต้องมีการยืนยันตัวตนอย่างชัดเจนและมีระบบป้องกันการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหลังจากลงนาม

ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายหรือไม่

บริษัทสามารถใช้ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในการทำอะไรได้บ้าง?

  1. การลงนามในสัญญาและข้อตกลง: ใช้สำหรับการทำสัญญาทางธุรกิจหรือข้อตกลงระหว่างบริษัทและคู่ค้า ซึ่งต้องการการยืนยันตัวตนที่ชัดเจนและปลอดภัย
  2. การจัดการเอกสารภายในองค์กร: ใช้ในการลงนามในคำสั่งงาน การอนุมัติเอกสาร การลงนามในรายงานภายในองค์กร ทำให้การดำเนินงานสะดวกขึ้นและลดการใช้กระดาษ
  3. ธุรกรรมการเงิน: ใช้ในการอนุมัติการจ่ายเงิน การเบิกจ่าย หรือการทำธุรกรรมทางการเงินที่ต้องการความปลอดภัยสูง
  4. การทำธุรกรรมระหว่างประเทศ: การใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่มีใบรับรองจากหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการทำธุรกรรมข้ามประเทศ

สรุป

ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางธุรกิจ มีผลทางกฎหมายเมื่อใช้ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และสามารถนำไปใช้ในหลากหลายบริบทของการดำเนินธุรกิจ เช่น การลงนามในสัญญา การจัดการเอกสารภายในองค์กร หรือการทำธุรกรรมทางการเงินที่ต้องการความปลอดภัยสูง

SO PEOPLE บริการจัดหาบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ช่างเทคนิค พนักงานขับรถ พนักงาน IT พนักงานธุรการ และประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ด้วยประสบการณ์มากกว่า 40 ปี ในการให้บริการบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ การันตีพนักงานพร้อมเริ่มงานภายใน 3 วัน

SOWHEEL บริการรถเช่าสำหรับลูกค้า มีทั้งแบบเช่าขับเองและเช่าแบบพร้อมคนขับ มีทั้งรถตู้ รถเก๋ง รถกระบะ และล่าสุดรถเช่าดัดแปลงตามการใช้งาน ที่พร้อมให้บริการลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกธุรกิจ มีฟังก์ชั่นให้เลือกหลากหลาย ประสบการณ์ให้บริการรถเช่ามามากกว่า 20 ปี พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพพร้อมให้บริการ

SOGREEN บริการดูแลสวนและตัดแต่งต้นไม้ใหญ่ ออกแบบการจัดสวนเสริมภาพลักษณ์องค์กร พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลและรักษาต้นไม้ โดยมีทีมรุกขกรมืออาชีพ

Logo SO+BU 2024 USE-20
บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน)

329 ม.10 กุศลส่งสามัคคี ซอย 1 ถนนรถรางสายเก่า ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 10130  โทร : 02-363-9300